สกุลเงิน

เมืองหลวง

Washington D.C.

ภูมิศาสตร์

สหรัฐอเมริกา หรือ United States of America (USA) เป็นสหพันธรัฐที่มีการปกครองแบบประชาธิปไตยอิงกับรัฐธรรมนูญ ประกอบด้วย 50 รัฐ และ 1 เขตปกครองพิเศษ ตั้งอยู่ในแถบอเมริกาเหนือระหว่างประเทศแคนาดาและประเทศเม็กซิโก มีรัฐอะแลสกาอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของอเมริกาเหนือ และรัฐฮาวายเป็นหมู่เกาะอยู่กลางมหาสมุทรแปซิฟิก สหรัฐฯ ถือเป็นประเทศที่ใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลก โดยมีพื้นที่ทั้งหมด 9.83 ล้านตารางกิโลเมตร มีระบอบการปกครองและระเบียบปฏิบัติแบบประชาธิปไตย และไม่มีภาษาประจำชาติอย่างเป็นทางการ แต่ภาษาอังกฤษถือเป็นภาษาที่ใช้ในทางการใน 28 รัฐ จากทั้งหมด 50 รัฐ ภาษาฮาวายเป็นภาษาทางการในรัฐฮาวาย

ภาคตะวันตกเป็นแนวเทือกเขาสูงที่สลับซับซัอนในรัฐอะแลสกา รัฐเนวาดา และรัฐแคลิฟอร์เนีย ภาคกลางเป็นที่ราบระหว่างเทือกเขาสูงทางตะวันตกกับที่ราบสูงทางตะวันออกภาคเหนือ มีอาณาบริเวณกว้างขวาง จากชายฝั่งมหาสมุทรอาร์กติกไปจนถึงชายฝั่งอ่าวเม็กซิโกภาคตะวันออก เป็นเขตหินเก่ามีเทือกเขาและที่ราบสูงจาก ทิศตะวันออกเฉียงเหนือไปทิศตะวันตกเฉียงใต้ที่สำคัญ ได้แก่ ที่ราบนิวฟาวแลนด์และลาบราดอร์ และเทือกเขา แอพพาลาเชียน

Time Zone

สหรัฐเป็นประเทศที่ใหญ่และที่ตั้งของประเทศนั้นครอบคลุมหลายพื้นที่จึงทำให้บางรัฐมีเวลาที่ไม่ตรงกัน ซึ่ง Time Zone ในประเทศอเมริกานั้นถูกแบ่งออกเป็น 6 โซนดังนี้

• Eastern Standard Time (GMT-5) ช้ากว่าไทย 12 ชั่วโมง เช่น New York Massachusetts Ohio
• ช้ากว่าไทย 13 ชั่วโมง เช่น Chicago Alabama Wisconsin Missouri

• Mountain Standard Time (GMT-7) ช้ากว่าไทย 14 ชั่วโมง เช่น Denver Phoenix Utah Colorado
• Pacific Standard Time (GMT-8) ช้ากว่าไทย 15 ชั่วโมง เช่น Los Angeles San Francisco Seattle
• Alaska Standard Time (GMT-9) ช้ากว่าไทย 16 ชั่วโมง เช่น Anchorage
• Hawaii-Aleutian Standard Time (GMT-10) ช้ากว่าไทย 17 ชั่วโมง เช่น Honolulu

ฤดูกาลและสภาพอากาศ

สภาพภูมิอากาศ: สหรัฐฯ มี 4 ฤดู อุณหภูมิในแต่ละรัฐแตกต่างกัน

• ฤดูใบไม้ผลิ (มี.ค.-พ.ค.) อุณหภูมิ 9-23 องศาเซลเซียส
• ฤดูหนาว (ธ.ค.-ก.พ.) อุณหภูมิ -12 ถึง -8 องศาเซลเซียส
• ฤดูร้อน (มิ.ย.-ส.ค.) อุณหภูมิ 20-34 องศาเซลเซียส
• ฤดูใบไม้ร่วง (ก.ย.-พ.ย.) อุณหภูมิ 7-25 องศา เซลเซียส
• ทั้งนี้พื้นที่เกือบทั้งหมดอยู่ในเขตอบอุ่น แต่รัฐฮาวายและรัฐฟลอริดามีอากาศร้อนชื้น รัฐอะแลสกามีอากาศหนาวจัด

เมืองยอดฮิต

New York

นครนิวยอร์ก เป็นเมืองหนึ่งในรัฐนิวยอร์ก ตั้งอยู่ทางฝั่งตะวันออกของสหรัฐฯ โดยประกอบด้วย 5 เขต (borough) คือ แมนฮัตตัน (Manhattan), บร็องซ์ (Bronx), ควีนส์ (Queens), บรู๊กลิน (Brooklyn) และสเตตันไอส์แลนด์ (Staten Island) มีเพียงแมนฮัตตันและสเตตันไอส์แลนด์เท่านั้นที่มีลักษณะเป็นเกาะ นิวยอร์กถือเป็นศูนย์รวมแหล่งท่องเที่ยว เศรษฐกิจ การค้าการลงทุน การเงิน ศิลปะบันเทิง และยังเป็นศูนย์กลางแฟชั่นและเครื่องประดับสำคัญแห่งหนึ่งของโลก มีเกาะแมนฮัตตันอยู่ใจกลางมหานคร เป็นที่ตั้งของหน่วยงานสำคัญมากมาย นอกจากนี้ยังมีแหล่งท่องเที่ยวสำคัญๆ ได้แก่ เทพีสันติภาพ (Lady Liberty) พิพิธภัณฑ์ Metropolitan Museum, Central Park และ Times Square ศูนย์รวมโรงละครนบรอดเวย์ และบริเวณ Fifth Avenue ซึ่งเป็นย่านช็อปปิ้งเสื้อผ้าและสินค้าแฟชั่นที่มีชื่อเสียงระดับโลก แถวที่นี่ยังเดินทางสะดวกอีกด้วยเพราะมีระบบคมนาคมตลอด 24 ชั่วโมง

San Francisco

ซานฟรานซิสโก (San Francisco) เป็นเมืองยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยว มีอากาศเย็นสบายตลอดทั้งปี จนได้รับฉายาว่าเป็นเมืองแห่งสายหมอก เพราะจะมีหมอกขาวปกคลุมอยู่เรื่อย ๆ แหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญที่นักท่องเที่ยวห้ามพลาดได้แก่  สะพานโกลเด้นเกต ซึ่งถือว่าเป็นสัญลักษณ์สำคัญของเมืองซานฟรานซิสโก  ถนนลอมบาร์ดถือเป็นถนนที่ได้ชื่อว่าคดเคี้ยวที่สุดแห่งหนึ่งของโลกมีทั้งหมด 8 โค้ง เป็นโค้งช่วงสั้น ๆ และแคบมาก รอบข้างของถนนเส้นมีบ้านเรือนสไตล์วิคตอเรียน (Victorian Style) ต่อมา Pier 39 ซึ่งเป็นท่าเรือที่โด่งดังมีร้านอาหารทะเลหลากหลายร้าน และมีวิวที่เต้มไปด้วยสิงโตทะเลนอนอาบแดดอยู่ และสิ่งที่ห้ามพลาดเมื่อมาเมืองนี้คือ เคเบิลคาร์ ซานฟรานซิสโก รถรางที่เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก โดยเริ่มมีการใช้มาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1873

Los Angeles

ลอสแอนเจลิส หรือที่เราเรียกกันสั้นๆว่า L.A. ตั้งอยู่ที่รัฐแคลิฟอร์เนีย เป็นเมืองใหญ่ที่สุดของรัฐ และเป็นเมืองที่มีประชากรอาศัยอยู่เป็นอันดับ 2 ของประเทศอีกด้วย เมืองลอสแอนเจลิสนี้เติบโตและมีชื่อเสียงเรื่อยมา โดยเฉพาะทางด้านความบันเทิงเพราะเป็นที่ตั้งของฮอลลีวูด เมืองแห่งนี้เป็นเมืองที่มีแหล่งท่องเที่ยวทางบันเทิงเยอะมาก เช่น Disney และ Universal Studio และอีกสิ่งที่หลายคนอยากมาเห็นด้วยตาตัวเอง คือป้าย Hollywood ที่ตั้งอยู่บนภูเขาลี (Mount Lee) และ Hollywood Walk of Frame และสิ่งเหล่านี้ก็เป็นสิ่งดึงดูดให้คนทั่วโลกเดิมทางมายังเมืองนางฟ้าแห่งนี้อยู่เสมอ

Chicago

ชิคาโกตั้งอยู่ที่รัฐอิลลินอย (Illinois) เป็นเมืองใหญ่อันดับสามของอเมริกา  ที่ได้ขึ้นชื่อว่าทันสมัยแห่งฝั่งทะเลสาบมิชิแกน มีชื่อเสียงในด้านวิจิตรศิลป์ ละครเวที กีฬาเบสบอล และดนตรีสไตล์บลูส์ แจ๊ส เมืองชิคาโกมีระบบทางรถไฟบนดินที่มีประสิทธิภาพสาย “L” ย่านที่สำคัญในชิคาโก้ได้แก่The Loop  ในดาวน์ทาวน์ที่คุณสามารถใช้เวลาหมดไปกับการช้อปปิ้งที่ Magnificent Mile การชมเมืองชิคาโกบนตึกสูง 412 เมตร จากอาคาร Willis Tower และในระแวกใกล้กันก็จะมี Art Institute of Chicago ซึ่งควรค่าแก่การเยี่ยมชม รวมถึง Millennium Park ที่หลายคนจะต้องมาถ่ายรูปกับ Cloud Gate หรือที่หลายๆคนเรียกว่า “The Bean” ส่วนในย่าน South Loop เป็นที่ตั้งของ Museum Campus ที่มีพิพิธภัณฑ์ดีๆ ให้เราได้ศึกษา และในยามค่ำคืนก็ไม่ควรพลาดย่าน Navy Pier และ Kingston Mines

นอกจากนี้สวนสาธารณะ Lincoln Park ซึ่งอยู่ทางเหนือของย่านดาวน์ทาวน์มีชายหาด ลานเล่นกีฬา และสวนภูมิทัศน์สวยงาม ดำดิ่งลงไปในประวัติศาสตร์ของเมืองลมแรงแห่งนี้ที่พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ชิคาโก้ ซึ่งอยู่ทางใต้ของสวนสาธารณะ

Boston

เมืองบอสตันเป็นเมืองหลวงของรัฐแมสซาชูเซตส์ (Massachusetts) ในประเทศอเมริกา และเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดในเขตนิวอิงแลนด์  (New England) บอสตันเป็นเมืองที่เก่าแก่ที่สุด มั่งคั่งที่สุด และมีวัฒนธรรมที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศ ธุรกิจที่สำคัญในบอสตัน ได้แก่ สถานพยาบาล การเงิน เทคโนโลยี และการศึกษา เพราะที่นี่เป็นที่ตั้งของมหาวิทยาลัยและวิทยาลัยกว่า 100 แห่ง เช่น Havard University, Boston University, Northeastern Universityและ Massachusetts Institute of Technology (MIT)  เมืองนี้จึงได้ชื่อว่าเป็นศูนย์กลางการศึกษาที่สำคัญแห่งหนึ่งในสหรัฐอเมริกา

บอสตันมีสวนสาธารณะมากมาย และได้การยกย่องว่ามีระบบสวนสาธารณะดีเป็นอันอับต้นๆของอเมริกา และมี Beacon Hill เป็นสวนสาธารณะที่เก่าแก่ที่สุดในสหรัฐอเมริกา นอกจากนี้ยังมีชายหาดอีกด้วย

การเดินทางคมนาคมในบอสตันค่อนข้างสะดวก เพราะมีระบบขนส่งที่ยอดเยี่ยมซึ่งเรียกสั้นๆว่า “ T” ซึ่งหมายถึง MBTA subway ซึ่งรวมรถเมล์ รถไฟ และรถไฟฟ้า

Seattle

ซีแอตเทิล ถือเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดในรัฐวอชิงตัน ตั้งอยู่ระหว่าง Puget Sound และ Lake Washington ได้รับการขนานนามว่า Emerald City เนื่องจากความสมบูรณ์ของธรรมชาติ มี Mount Rainer ที่มียอดปกคลุมด้วยหิมะก็จะกลายเป็นดาวเด่นของเมืองนี้ เพราะมีความสวยงาม

ในย่านเมืองซีแอตเทิลมี Space Needle เป็นสถานที่สำคัญที่มีชื่อเสียงที่สุดของเมือง  ซึ่งสร้างขึ้นสำหรับ 1962 World Fair นอกจากนี้ยังมีหลากหลายร้านค้า ห้างสรรพสินค้า ร้านอาหาร และความบันเทิง เมืองแห่งนี้มีหลากหลายย่านให้นักท่องเที่ยวได้ค้นหา เช่น Pioneer Square สำหรับพวกที่อยากเรียนรู้ประวัติศาสตร์ช่วงยุคตื่นทองเล็กน้อย ย่าน Belltown ที่มีความเก๋ไก๋ ส่วนใครที่ช้อปปิ้ง ร้านอาหาร บาร์ก็ต้อง Downtown Seattle และย่าน Seattle Waterfront ซึ่งเป็นที่นิยมตลอดกาลและมี Seattle Great Wheel ชิงช้าสวรรค์ริมทะเล  และ Pike Place Market ตลาดที่ทุกคนไม่ควรพลาดสำหรับคนที่ชอบอาหารทะเลสดๆ และชอบของ home made

ค่าใช้จ่ายและค่าครองชีพ

ค่าครองชีพ: ประมาณ $3000-4000 ต่อเดือน (ขึ้นอยู่กับเมือง)

• สำหรับร้านอาหารมื้อธรรมดา ราคา$18.00
• อาหารสำหรับ 2 คน สำหรับร้านอาหารราคาแพง ราคา$70.00       
• ร้านอาหาร Fast food  ราคา$9.99   
• กาแฟ      ราคา$4.68           
• Coke/Pepsi (0.33 liter bottle) ราคา$2.30 
• น้ำดื่ม (0.33 liter bottle)   ราคา$1.82           
• ฟิสเนสต่อเดือน ราคา $41.86
• ตั๋ว 1 ที่ในโรงหนัง ราคา $12
• ค่าเช่าสำหรับ 1 ห้องนอนในเมือง $1705 สำหรับนอกเมือง $1380

ที่มา www.numbeo.com

สถาบันที่แนะนำ สำหรับเรียนต่อประเทศสหรัฐอเมริกา

San Francisco State University

Oregon State University

The University of Arizona

George Mason University

Colorado State University

The University of Alabama at Birmingham

Illinois State University

Talk English Schools

Kaplan