สกุลเงิน

เมืองหลวง

ลอนดอน (London, เสียงอ่านภาษาอังกฤษ ) หรือ กรุงลอนดอน หรือ นครลอนดอน เป็นเมืองหลวงและเมืองที่ใหญ่ที่สุดของแคว้นอังกฤษ ลอนดอนเป็นหนึ่งในศูนย์กลางสำคัญทางธุรกิจ การเมือง วัฒนธรรม และประวัติศาสตร์ของโลก เป็นผู้นำด้านการเงิน การเมือง การสื่อสาร การบันเทิง แฟชั่น และศิลปะ ในอดีตเป็นเมืองหลวงของโลก เป็นเมืองที่เจริญที่สุดในโลก

ลอนดอนเป็นเมืองที่ประกอบด้วยหลายชนชาติอย่างมาก ประชากรมีความหลากหลายทั้งด้านเชื้อชาติ วัฒนธรรม ศาสนา และภาษา ซึ่งประมาณว่ามีมากกว่า 300 ภาษา เราเรียกชาวลอนดอนว่า ลอนดอนเนอร์ (อังกฤษ: Londoner) นอกจากนี้ลอนดอนเป็นศูนย์กลางการคมนาคมในระดับนานาชาติ และเป็นเมืองท่องเที่ยวสำคัญของทวีปยุโรป โดยสนามบินที่ใหญ่ที่สุดในลอนดอน คือ ท่าอากาศยานนานาชาติฮีทโธรว์

ภูมิศาสตร์

สหราชอาณาจักรบริเตนใหญ่และไอร์แลนด์เหนือ (อังกฤษ: United Kingdom of Great Britain and Northern Ireland) หรือโดยทั่วไปรู้จักกันว่า สหราชอาณาจักร (United Kingdom: UK) และ บริเตน (Britain) เป็นรัฐเอกราชในยุโรป ตั้งอยู่นอกชายฝั่งตะวันตกเฉียงเหนือของยุโรปภาคพื้นทวีป ประกอบด้วยประเทศองค์ประกอบ 4 ประเทศ ได้แก่ อังกฤษ เวลส์ สกอตแลนด์ และไอร์แลนด์เหนือ โดยครอบคลุมเกาะบริเตนใหญ่ ส่วนตะวันออกเฉียงเหนือของเกาะไอร์แลนด์ และเกาะเล็ก ๆ จำนวนมากในหมู่เกาะบริติช ไอร์แลนด์เหนือเป็นเพียงส่วนเดียวของสหราชอาณาจักรที่มีพรมแดนทางบกติดต่อกับรัฐอื่น คือ ประเทศไอร์แลนด์ นอกเหนือจากนี้แล้ว สหราชอาณาจักรล้อมรอบด้วยมหาสมุทรแอตแลนติก ทะเลเหนือ ช่องแคบอังกฤษ ทะเลเคลติก และทะเลไอริช สหราชอาณาจักรมีเนื้อที่ทั้งหมด 242,495 ตารางกิโลเมตร (93,628 ตารางไมล์) และมีจำนวนประชากรประมาณการใน ค.ศ. 2020 มากกว่า 67 ล้านคน

Time Zone

ทุก ๆ เขตเวลามีความสัมพันธ์กับเวลาพิกัดสากล จุดอ้างอิงของเขตเวลาคือเส้นเมริเดียนแรก (ลองจิจูด 0°) ซึ่งพาดผ่าน Royal Greenwich Observatory ในกรีนิช (กรีนิช) กรุงลอนดอนแห่งสหราชอาณาจักร ด้วยเหตุนี้จึงมักพบการใช้คำว่า เวลามาตรฐานกรีนิช เพื่อแสดงเวลาพื้นฐานซึ่งมีความสัมพันธ์กับเขตเวลาต่าง ๆ อย่างไรก็ตามทุกวันนี้ใช้ UTC เป็นหน่วยเวลาอย่างเป็นทางการ ซึ่งมีความแตกต่างจากวิธีการดั้งเดิมของกรีนิชที่ใช้การอ้างอิงเวลาตามหลักดาราศาสตร์

ระบบเวลากลางมาตรฐานของกลุ่มราชอาณาจักร คือการนับเวลากลางโดยใช้จุดที่เส้นลองติจูดวิ่งผ่านหอสังเกตการณ์ที่เมืองกรีนิช ลอนดอน เป็นศูนย์กลางของการนับเวลา (Prime Meridean) โดยมีชื่อเรียกว่าเขตเวลากลางกรีนิช (Greenwich Meridean) และถือว่าเวลาที่กรีนิชเป็นเวลากลางอ้างอิงของทั้งโลก (Greenwich Mean Time  หรือ GMT) หลักจำง่ายๆก็คือ เขตเวลากรีนิชจะนับ 0 เขตที่ถัดไปทางตะวันออก เวลาก็จะบวกเพิ่มขึ้นทีละ 1 ชั่วโมง ส่วนเขตที่ถัดไปทางตะวันตกก็จะลดลงทีละ 1 ชั่วโมง นับไปเรื่อยๆทั้งสองฝากจนครบ 24 ชั่วโมง

ตัวอย่างเช่น ถ้าเขตกรีนิชเป็นเวลา 10 โมงเช้า ประเทศไทยอยู่ในเขต +7 เวลาของไทยจึงเป็นเวลา 5 โมงเย็นในขณะเวลาเดียวกัน

ทั้งนี้ประเทศอังกฤษซึ่งเป็นที่ตั้งของเมืองกรีนิช ศูนย์กลางของนาฬิกาโลก เป็นหนึ่งในประเทศที่มีการปรับนาฬิกาให้เร็วขึ้นหรือช้าลง จำนวน  2 ครั้ง ใน 1 ปี ซึ่งการปรับนาฬิกานี้ส่งผลต่อระบบนาฬิกาของโลกและชื่อที่เรียกเขตเวลา   ทั้งนี้เวลา GMT (UTC) จะเป็นเวลาประจำกรีนิชเฉพาะในช่วง 01:00 UTC ของวันอาทิตย์สุดท้ายของเดือนตุลาคม ถึงเวลา 01:00 UTC ของวันอาทิตย์สุดท้ายของเดือนมีนาคม ส่วนในช่วงเวลาที่เหลือของปีเวลาของกรีนิชจะเป็น UTC+1

ฤดูกาลและสภาพอากาศ

โดยปกติแล้วสภาพอากาศประเทศอังกฤษเปลี่ยนแปลงบ่อย และค่อนข้างหนาวเย็นตลอดทั้งปี ด้วยลักษณะภูมิประเทศที่เป็นเกาะ ทำให้อากาศชื้นๆ หน่อย และมีฝนตกตลอดปี เพราะได้รับลมมรสุมจากมหาสมุทรแอตแลนติกเข้าเต็มๆ ส่วนฤดูกาล มีทั้งหมด 4 ฤดู ได้แก่

ฤดูใบไม้ผลิ เริ่มช่วงเดือนมีนาคม-พฤษภาคม อุณหภูมิสบายๆ ประมาณ 9-16 องศาเซลเซียล ช่วงนี้จะมีดอกไม้จะบานสะพรั่ง ใครชอบชมดอกไม้ต้องมา เป็นฤดูที่อากาศมีการเปลี่ยนแปลงได้บ่อยที่สุด อาจมีทั้งอากาศอบอุ่น แสงแดดจัด หนาวเย็นและฝนตกสลับกันไป หรือสภาพอากาศเหล่านี้อาจเกิดขึ้นในวันเดียวกันซึ่งทั้งนี้ช่วงฤดูใบไม้ผลิ ช่วงนี้จะมีดอกไม้จะบานสะพรั่ง ใครชอบชมดอกไม้ต้องมา ก็จะอยู่ในเดือนมีนาคม-พฤษภาคม

ฤดูร้อน เริ่มประมาณช่วงเดือนมิถุนายน-สิงหาคม โดยอุณหภูมิเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 16-20 องศาเซลเซียล ซัมเมอร์ที่ไม่ได้ร้อนจัดจ้านเหมือนบ้านเรา สภาพอากาศจะมีความอบอุ่นเป็นส่วนใหญ่ และมีแสงแดดส่องตลอดวัน ซึ่งจะได้เห็นความคึกครื้นของที่นี่ เพราะคนจะออกมาช้อปปิ้ง ออกมาเดินเล่นหรือนั่งตามสวนสาธารณะ รวมถึงไปนอนอาบแดดตามชายหาด และที่สำคัญ ในช่วงนี้เวลากลางวันจะยาวนานกว่ากลางคืน บางช่วง 2 ทุ่มกว่าแล้วเพิ่งจะเริ่มมืด ทำให้เที่ยวได้ยาวนานกว่าฤดูอื่นๆ

ฤดูใบไม้ร่วง หรือใบไม้เปลี่ยนสี เป็นฤดูที่ใบไม้เริ่มเปลี่ยนสีและร่วงหล่นลงมามากกว่าปกติ แต่ก็ให้ความสวยงามและบรรยากาศที่น่าเที่ยวไม่น้อย หากยังไม่รู้ว่าจะ เที่ยวอังกฤษ เดือนไหนดี ในช่วงเดือนกันยายน-พฤศจิกายน ก็น่าสน เพราะทุกพื้นที่จะเต็มไปด้วยความงามของใบไม้และสีสันที่สดใส รอคุณอยู่ อุณหภูมิอากาศหนาวเย็นลงอยู่ที่ประมาณ 8-17 องศาเซลเซียล

ฤดูหนาว  ฤดูหนาวเป็นฤดูที่มีหิมะตก เหมาะกับการท่องเที่ยวสำหรับคนที่อยากสัมผัสกับหิมะเป็นที่สุด แต่จะมีหิมะตกบางพื้นที่เท่านั้น ถ้ามาเที่ยวช่วงนี้ เตรียมโอเวอร์โค้ทตัวยาว ถุงมือและไอเท็มกันหนาวแบบจัดเต็มได้เลยค่ะ เพราะหนาวแบบติดลบ หนาวจริงจัง อยู่ในช่วงระหว่างปลายปีถึงต้นปี หรือเดือนธันวาคม-กุมภาพันธ์ ในช่วงนี้กลางคืนจะยาวนานกว่ากลางวันอีกด้วย หรือกล่าวง่ายๆก็คือช่วงนี้จะมืดเร็วกว่าปกตินั่นเอง บางช่วงยังไม่ 5 โมงเย็นท้องฟ้าจะเริ่มมืดแล้ว  อุณหภูมิอากาศหนาวเย็นลงอยู่ที่ประมาณ 0-7 องศาเซลเซียล

เมืองยอดฮิต

Bath

เมืองเก่าแก่ตั้งแต่ยุคสมัยโรมันรุ่งเรือง เป็นเมืองที่มีทั้งประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมอย่างยาวนาน เป็นสถานที่อาบน้ำของชาวโรมันเลยถูกเรียกว่า Roman Bath ซึ่งเป็นบ่อน้ำพุร้อนที่มีอายุยาวนานมากกว่า 2,000 ปี และยังมันจุดหมายสำคัญของนักท่องเที่ยว

Brighton

เป็นเมืองตั้งอยู่ทางตอนใต้ของประเทศอังกฤษ เป็นที่พักต่างอากาศของทั้งคนอังกฤษและนักท่องเที่ยวทั่วโลก เป็นที่ตั้งของมหาลัยและโรงเรียนมากมาย ทำให้เป็นอีกหนึ่งเหมายของนักเรียกเมื่ออยากไปศึกษาหาความรู้และใช้ชีวิต อีกทั้งยังมีแหล่ท่องเที่ยว เช่น Brighton pier, Seven Sister และที่ช้อปปิ้งมากมาย

Cambridge

เป็นเมืองที่มีความเก่าแก่และประวัติศาสตร์ที่ยาวนานเป็นอันดับ 2 ของประเทศอังกฤษ ห่างจากลอนดอนประมาณ 90 กิโลเมตร หรือห่างจากลอนดอนประมาณ 1 ชั่วโมง ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ เต็มไปด้วย college ต่างๆมากมาย อีกทั้งยังขึ้นชื่อเรื่องสถาปัตยกรรมที่เก่าแก่ เป็นศุนย์กลางของการค้าในสมัยก่อน เพราะเป็นที่ตั้งของแม่น้ำสายหลักหลายๆสาย เหมาะแก่การไปพักผ่อนท่องเที่ยว กิจกรรมที่นักท่องเที่ยวขอบมาทำคือการนั่งเรือที่เรียกว่า Punting และการช้อปปิ้งอีกด้วย

Edinburgh

เป็นเมืองที่มีความใหญ่เป็นอันดับที่ 2 ของ Scotland และยังเป็นเมืองหลวงของ Scotland ซึ่งมีความเก่าแก่ จะเห็นได้จากสถาปัตยกรรมต่างๆ ยังคงอยู่ในรูปแบบเดิม

Manchester

เป็นเมืองที่มีขนาดใหญ่อันดับ 2 รองลงมาจากลอนดอน และมีจำนวนประชากรหลากหลายเชื้อชาติอาศัยอยู่ ตำแหน่งที่ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของประเทศอังกฤษ มีการเติบโตและเจริญรุ่งเรืองของการผลิดสิ่งทอต่างๆจนทำให้นำมาสู่การปฏิวัติอุตสาหกรรม ทำให้เป็นเมืองอตสาหกรรมแห่งแรกๆของโลก นอกจากนั้นยังเป็นที่รู้จักในเรื่องการกีฬา เพราะเป็นทีตั้งของสโมสรฟุตบอลระดับโลก ทั้ง Manchester United และ Manchester City

Oxford

เป็นเมืองที่ตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของอังกฤษ เป็นเมืองที่มีความหลากหลายของวัฒนธรรมและเชื้อชาติ เป็นที่ตั้งของมหาลัยที่เก่าแก่ที่สุดในโลก University of Oxford ซึ่งประกอบไปด้วยวิทยาลัยมากกว่า 30 แห่ง จึงถูกเรียกว่าเมืองแห่งการศึกษา เพราะยังมี โรงเรียน และ มหาวิทยาลัยอีกมากมาย ซึ่งทำให้แต่ละปีจะมีนักเรียนจากทั่วทุกมุมโลกมาศึกษาและท่องเที่ยวที่เมืองนี้อย่างมากมาย นอกจากนั้นยังมีสถานที่ท่องเที่ยวอีกมากมาย ทั้งสถานที่ทางประวัติศาสตร์ พิพิธภัณฑ์ และแหล่งช้อปปิ้งมากมาย

ค่าใช้จ่ายและค่าครองชีพ

ค่าเรียน

• เรียนภาษา

ขึ้นชื่อว่าภาษาอังกฤษ ทำให้เด็กๆทั่วโลกมองประเทศอังกฤษเป็นจุดหมายต้นๆในการพัฒนาภาษา เพราะเป็นดินแดนต้นกำเนิดของภาษาอังกฤษ โดยค่าใช้จ่ายจะแตกต่างกันไป ในแต่ละสถาบันและระยะเวลาการเรียนของนักเรียนแต่ละคน โดยระยะเวลาเรียนจะสามารถเริ่มต้นได้ตั้งแต่ 1-11 เดือน โดยในคอร์สต่างๆจะเปิดคอร์ตลอดทั้งปี โดยนักเรียนสามารถกำหนดวันเริ่มเรียนได้ตามความสะดวกของแต่ละคน ในเรื่องของค่าใช้จ่าย สถาบันต่างๆจะจัดโปรโมชั่นและส่วนลดให้กับนักเรียนขึ้นอยู่กับแต่ละช่วงเวลา ตกเฉลี่ยเดือนละประมาณ 150,000 บาท จนถึง 300,000 บาท

• ระดับปริญญา

                 ในการเรียนระดับปริญญาจะใช้ระยะเวลาตั้งแต่ 1-3 ปีขึ้นไป โดยค่าเรียนจะเริ่มต้นตั้งแต่ 10,000 ปอนด์ ขึ้นไปจนถึงประมาณ 50,000 ปอนด์ เฉลี่ยประมาณ ปีละประมาณ 500,000 บาท จนถึง 2,500,000 โดยส่วนใหญ่ค่าเทอมในสหราชอาณาจักรมีแนวโน้มที่ปรับตัวสูงขึ้นทุกๆปี ขึ้นอยู่กับแต่ละมหาลัยและแต่ละคอร์สเรียน ในแต่ละมหาวิทยาลัยจะมีทุนหรือส่วนลดให้กับนักเรียนขึ้นอยู่กับโปรไฟล์และข้อกำหนดของทุนนั้นๆ เริ่มต้นตั้งแต่ 1,000 – 10,000 ปอนด์ หรือในบางสาขามีทุนมากถึง 50%

ค่าที่พัก

ในเรื่องค่าใช้จ่ายที่จะต้องมีสำหรับทุกคนคือค่าที่พัก ซึ่งจะเป็นค่าใช้จ่ายหลักรองลงมาจากค่าเรียน โดยส่วนใหญ่หอพักที่อังกฤษจะแจ้งค่าใช้จ่ายเป็นรายสัปดาห์เริ่มตั้งแต่ 90-500 ปอนด์ ต่อสัปดาห์ หรือถ้าเป็นอพาเมนต์หรือบ้านเช่าในลอนดอนอาจจะมีราคาสูงจนถึง 2,000 ปอนด์ ต่อ สัปดาห์ ในการเลือกที่พักจะมีตัวเลือกหลายๆแบบให้แก่นักเรียนต่างชาติ ตัวเลือกจะมีตั้งแต่การ แชร์ห้องน้ำ แชร์ห้องครัว หรือเรียกว่า Ensuite หรือ มีห้องครัวส่วนตัวเหมือนคอนโดบ้านเรา เรียกว่าห้องแบบ Studio โดยส่วนใหญ่หอพักนักเรียนจะรวม ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าอินเตอร์เน็ตในค่าเช่าเรียบร้อยแล้ว แต่หอพักที่นักเรียนส่วนใหญ่นิยมและเลือกใช้จะแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภทหลักๆคือ

• หอพักมหาวิทยาลัย

โดยค่าที่พักมีราคาเริ่มต้นตั้งแต่ 90 – 300 ปอนด์ ส่วนใหญ่จะเป็นประเภทห้องแบบ แชร์ห้องน้ำ และ แชร์ห้องครัว และยังมีหอพักแบบมีห้องครัวในตัวแต่จะไม่ได้มีเยอะมาก

หอพักมหาวิทยาลัยหรือส่วนใหญ่จะเรียกว่าหอใน บางคนอาจจะติดภาพว่าหอในแบบบ้านเราต้องเป็นที่พักแบบเก่าๆ มีต้องทำกิจกรรมอยู่เรื่อย ๆ ในความเป็นจริงๆแล้วอาจจะมีส่วนจริงอยู่บ้างในเรื่องของความเก่าแก่ แต่ต้องบอกว่าในส่วนของมหาวิทยาลัยเองจะมีการปรับปรุงห้องและสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆอยู่เรื่อย ๆ หรือบางมหาวิทยาลัยก็จะมีการสร้างหอพักใหม่ๆเพื่อรองรับจำนวนนักเรียนที่เพิ่มมากขึ้นในแต่ละปี ในส่วนของการทำกิจกรรมก็ไม่ได้มีการบังคับให้ทำอยู่ที่ความสมัครใจของนักเรียนเอง ข้อดีของการอยู่หอพักมหาวิทยาลัยคือ สามารถเดินไปเรียนได้เลย ถ้าชอบอ่านหนังสือห้องสมุดกลับดึกก็สามารถกลับที่พักได้ง่าย เหมาะกับนักเรียนที่ชอบตื่นสายแล้วไปเรียน ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ในหอพักบางประเภทก็จะมีราคาที่ถูกกว่าหอพักเอกชน

• หอพักเอกชน หรือส่วนใหญ่จะเรียกว่าหอนอก

โดยค่าหอพักเฉลี่ยเริ่มต้นตั้งแต่ 100 – 500 ปอนด์ แล้วแต่ขนาดห้อง,สิ่งอำนวยความสะดวก และการช่วงเวลาการจอง

หอพักเอกชนหรือส่วนใหญ่จะเรียกว่าหอนอก  โดยหอพักแบบนี้จะมีตัวเลือกให้เลือกหลากหลาย แต่ละเมืองก็จะมีหอพักให้เลือกมากมาย ราคาก็จะขึ้นอยู่กับตำแหน่งที่ตั้งและสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ แต่ละเมืองก็จะมีหอที่ส่วนใหญ่ที่นักเรียนเลือกไปอยู่ ส่วนใหญ่หอพักที่นักเรียนเลือกจะเป็นประเภทแบบ แชร์ห้องครัว และ มีห้องครัวในห้องแล้วเมืองหอพักเต็มเร็วมากๆ ข้อดีคือหอพักอยู่ใกล้เมืองเดินทางไปเมืองอื่นๆสะดวก ถ้าบางคนทำงานพาร์ทไทม์เลิกดึกก็จะสามารถกลับหอได้สะดวก

ค่าอาหาร

อีกหนึ่งค่าใช้จ่ายที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลยคือค่าอาหาร โดยค่าอาหารส่วนใหญ่จะผันแปรตามค่าครองชีพของประเทศนั้นๆ โดยในสหราชอาณาจักรเองก็จะมีค่าอาหารเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณมื้อละ 7-30 ปอนด์ต่อมื้อ อยู่ที่ประเภทร้านและประเภทอาหารที่รับประทานโดยส่วนใหญ่แล้วนั้นวิธีที่นักเรียนประหยัดค่าใช้จ่ายคือการทำอาหารกินเองจะช่วยให้ประหยัดค่าใช้จ่ายได้มากขึ้น เราสามารถหารค่าวัตถุดิบกับเพื่อนๆซื้อของในประมาณที่มากขึ้นจะเป็นหนึ่งตัวช่วยที่ประหยัดเงินได้มากกว่าเดิม โดย ตัวอย่างราคาวัตถุดิบ เช่น น้ำดื่ม 1ลิตร ราคาประมาณ 0.9 – 1ปอนด์ / ไข่ 1 โหล ราคาประมาณ 1.96 / ข้าวสาร 1 กิโลกรัม ราคาประมาณ 2 ปอนด์ / เนื้อไก่ 1 กิโลกรับ ราคาประมาณ 5.52 ปอนด์

ค่าเดินทาง

การเดินทางระหว่างเมืองในสหราชอาณาจักรส่วนใหญ่จะใช้วิธีการเดินทางด้วยรถไฟและรถโค้ชหรือถ้าเดินทางระหว่างเมืองที่ไกลมากๆก็จะใช้วิธีเดินทางด้วยสายการบินในประเทศ ถ้าเราจองล่วงหน้าได้นานก็จะสามารถประหยัดค่าใช้จ่ายได้ หรือถ้านักเรียนใช้บัตรโดยสารราคาของนักเรียนก็จะช่วยให้ค่าใช้จ่ายไม่สูงมาก เรียกว่าบัตร 16-25 ราคาประมาณ 30 ปอนด์ต่อปี จะช่วยประหยดราคาไปได้ในราคา 30% ของราคาเต็มของบัตรโดยสาร ทั้งนี้นักเรียนควรซื้อตั๋วไว้ล่วงหน้าก็จะสามารถช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายมากขึ้น

            การเดินทางในเมืองส่วนใหญ่นักเรียนจะเลือกเดินทางด้วยรถสาธารณะอย่างเช่นรถบัสซึ่งราคาเริ่มต้นประมาณ 1 ปอนด์ขึ้นไป โดยถ้าเดินทางบ่อยๆ สามารถเลือกซื้อบัตรแบบรายปีเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 150-300 ปอนด์ ในเมืองใหญ่ๆหลายเมืองก็จะรถสาธารณะให้บริการด้วย บางเมืองมีรถราง อย่างเช่น Manchester เรียกว่า Tram หรือรถไฟฟ้าใต้ดินใน London ที่เรียกว่า Tube และ Newcastle ที่เรียกว่า Tyne ค่าบริการขึ้นอยู่กับระยะทางและจุดหมายที่เราจะเดินทางไป หรือในเมืองที่ไม่ใหญ่มากๆ ก็สามารถใช้การเดินเป็นอีกหนึ่งทางเลือกโดย

ค่าใช้จ่ายจิปาถะ

ค่าโทรศัพท์ มีหลายค่าย หลายโปรโมชั่นให้เลือก ทั้งอินเตอร์เน็ต จำนวนนาทีการโทร การส่งข้อความ แบบอันลิมิเต็ด

ค่าช้อปปิ้ง เรียนมาเครียดๆ การช้อปปิ้งก็เป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยผ่อนคลายๆของนักเรียนหลายๆคน แล้วแต่ว่ามีสิ่งของเสื้อผ้าหรือสิ่งที่อยากได้ขนาดไหน เฉลี่ยอาจจะใช้ประมาณ 20-100 ปอนด์ต่อเดือน ในหลายๆร้านอาจจะได้ส่วนลดของนักเรียนเพิ่มเข้าไปด้วย

ค่าเที่ยว สถานที่สำคัญต่างๆ การเป็นนักเรียนของเราทำให้ได้สิทธิประโยชน์มากมาย หนึ่งในนั้นก็คือส่วนลดของการเข้าชมสถานที่สำคัญต่างๆ เช่น London Eye / Tower of London / British museum / Stonehenge / Buckingham Palace ค่าเข้าชมจะอยู่ประมาณ 10 – 30 ปอนด์ หรือบางคนเป็นสายดื่ม ในการเข้าผับหรือคลับ และอีเว้นสำคัญต่างๆอาจจะอยู่ที่ ประมาณ 20 – 30 ปอนด์

ค่ากิจกรรมนันทนาการ การดูหนังก็เป็นหนึ่งกิจกรรมที่นักเรียนนิยมทำกันโดยค่าตั๋วจะอยู่ที่ประมาณ 8 – 13 ปอนด์ ต่อใบ และยังมีกิจกรรมอื่นๆ อาธิเช่น โยนโบลลิ่ง ราคาอยู่ที่ประมาณ 8-15 ปอนด์

มหาวิทยาลัยที่แนะนำ สำหรับเรียนต่อประเทศอังกฤษ

University of East Anglia เมือง Norwich

University of Essex เมือง Colchester

University of Surrey เมือง Guildford

University of Sussex เมือง Brighton

Queen Mary University of London เมือง London

Newcastle University เมือง Newcastle

University of Liverpool เมือง Liverpool

Reading University เมือง Reading

De Montfort University เมือง Leicester

University of Northampton เมือง Northampton

University of the west of England (UWE) เมือง Bristol

Bournemouth University เมือง Bournemouth

Northumbria University เมือง Newcastle